มนุษย์ต่างดาว นักดาราศาสตร์ และท้องฟ้าที่สังเกต

เจาะเวลาหาอดีต ตอนสอง


   เค้าว่ากันว่าหากสิ่งใดสิ่งหนึ่งทำให้เราเกิดความประทับใจแรกอย่างรุนแรง มันจะฝังใจไปจนวันตาย ก็เหมือนที่ชายหนุ่มหลายคนไม่เคยลืมรสชาติของรักครั้งแรก หญิงสาวหลายคนไม่เคยลืมรสจูบแรกไม่ว่ามันจะนุ่มนวลหอมหวานหรือเร่าร้อนกระทั้นกระแทกเพียงใด ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผ่านตาผมจริงๆกลับไม่ใช่เรื่อง Jurassic Park แต่กลับเป็นความบันเทิงราคาถูกในรูปแบบวิดีโอที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า ‘หนังแปลงร่าง’ คงไม่มีใครไม่รู้จักหนังประเภทที่สัตว์ประหลาดมาบุกโลกแล้วพระเอกของเราก็มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงร่างกายตนเองให้มีพลังเพิ่มขึ้นเพื่อต่อกรกับสัตว์ร้ายที่ว่า ใช่แล้วครับ ที่บ้านของผมแม้จะยากจนแต่ก็ยังดิ้นรนหาซื้อเครื่องเล่นวิดีโอและโทรทัศน์เพื่อเสพความบันเทิงกัน และก็เพราะความบันเทิงราคาถูกเหล่านี้นี่เองที่ทำให้บ้านของเรามีรอยยิ้มเสียงหัวเราะและน้ำตาพร้อมๆกัน ความทรงจำเมื่อครั้งผมหัวเราะร่วนกับเรื่องราวในจอโทรทัศน์ไปพร้อมกับพ่อแม่และพี่สาวยังคงเด่นชัดในความทรงจำ หนังแปลงร่างที่ผมพูดถึงไปนั้นผมยังจำชื่อเรื่องได้เป็นอย่างดี ‘อภินิหารมนุษย์กระจกเงา’ แค่ชื่อเรื่องก็น่าจะพอบอกเล่าถึงวิธีการที่พระเอกของเราใช้ในการแปลงร่างได้นะครับ หนังเรื่องนี้เป็นซีรีส์ยาวพอสมควร แต่ผมมีโอกาสได้ดูเพียงแค่ม้วนเดียวซึ่งมีประมาณสามตอน ในตอนจบจะมีตัวอย่างของม้วนต่อไปซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดมาจากดาวอังคาร เข้ามาสิงมนุษย์และทำให้มนุษย์คนนั้นกลายร่างเป็นเหมือนแมลงออกไล่กินคนอื่นไปทั่ว ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูตอนต่อที่ว่านี้เลย และผมก็คิดว่าคงไม่น่าจะมีขายแล้ว หากใครพอมีก็ช่วยบอกกล่าวกันด้วยนะครับ จะถือเป็นพระคุณอย่างสูงเลยครับ

   พอมีเครื่องเล่นวิดีโอแล้ว ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบก็ผ่านตาผมเป็นประจำ พ่อมักจะเช่าหรือยืมวิดีโอจากเพื่อนๆมาให้พวกเราได้ดูเสมอ และครั้งที่ทำให้ผมหลงใหลมายาภาพบนหน้าจอได้มากที่สุดนั้นคือ วิดีโอม้วนนั้นที่หน้าปกเป็นชายหน้าตาน่ากลัวใส่แว่นดำ พร้อมภาษาอังกฤษที่ผมอ่านไม่ออกอยู่ด้านล่าง แต่สติ๊กเกอร์สีขาวที่แปะที่ม้วนวิดีโอพร้อมภาษาไทยสั้นๆ ก็ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นอยากดูสุดๆ ใช่แล้วครับ มันคือคำว่า ‘คนเหล็ก 2029’ นี่คือหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดและดูซ้ำบ่อยที่สุดเท่าที่ชีวิตของเด็กชายปิยะพงษ์เคยดูเลยทีเดียว ผมดูซ้ำบ่อยมากจนจำได้เกือบทุกประโยคที่ตัวละครพูด ในการดูรอบแรกนั้นผมอ่านซับไตเติลไม่ทันเลย ผมจำได้แค่ว่ามีหุ่นยนต์ที่รูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์สองตัวต่อสู้กัน โดยตัวหนึ่งต่อสู้เพื่อปกป้องเด็กหนุ่มคนหนึ่ง และอีกตัวหนึ่งต่อสู้เพื่อทำลายเด็กหนุ่มคนนั้น ทุกฉากที่หุ่นยนต์ทั้งสองเข้าห้ำหั่นกันดูสมจริงจนผมแว่วได้ยินเสียงกระจกบ้านสั่นไหว หนังเรื่องนี้ฉายให้เห็นสภาพบ้านเมืองในอนาคตที่น่าหดหู่สิ้นหวัง เด็กตัวน้อยๆความรู้ไม่มากแบบผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอนาคตต้องเป็นแบบนั้นด้วย มนุษย์เราต้องพัฒนาสิ่งต่างๆเพื่อให้อนาคตดีไม่ใช่หรือ ผมเก็บความสงสัยเหล่านี้ไว้นาน จนวันหนึ่งแม่ของผมพาผมเข้าสู่โลกอีกใบที่น่าหลงใหลและกระตุ้นเร้าจินตนาการเด็กตัวเล็กๆอย่างผมได้อย่างมาก โลกที่จับต้องไม่ได้แต่บางครั้งกระตุ้นเร้าอย่างประหลาด โลกใบนั้นที่หลายๆคนหลงใหล เราเรียกมันว่า ‘หนังสือ’

   หนังสือเล่มแรกนอกจากตำราเรียนที่ผมอ่านเป็นนิตยสารสำหรับเด็ก ‘สวนเด็ก’ ใครที่อายุมากกว่า20ปีน่าจะรู้จักนิตยสารเล่มนี้เป็นอย่างดี นี่คือประตูบานเล็กๆที่เปิดสู่โลกใบใหญ่ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในจินตนาการของเด็กชายปิยะพงษ์ คำถามหลากหลายในหัวสมองได้รับคำตอบผ่านหน้ากระดาษเล็กๆ พร้อมทั้งก่อให้เกิดคำถามอีกมากมายที่คำตอบอาจไม่สำคัญเท่าวิธีการที่เราค้นหามัน วินาทีที่มือเล็กๆของผมสัมผัสกระดาษสายตาสัมผัสเรื่องราว ความรู้สึกนึกคิดต่างๆก็ไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลย นี่คือโลกอีกใบที่เด็กหลายคนปฏิเสธเพียงเพราะรังเกียจตัวอักษร แต่กับเด็กชายที่ไม่มีของเล่นและเพื่อนฝูงมากนัก หนังสือคือเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้จัก ภาพยนตร์คือของเล่นล้ำค่าที่สุดที่เขาเคยได้รับ และทุกสิ่งทุกอย่างก็หล่อหลอมชีวิตและความคิดช่วยให้เขาก้าวผ่านวัยเด็กที่ไม่ใคร่ดีนักไปสู่วัยที่โตขึ้นและโตขึ้น เพื่อค้นพบว่า โลกทั้งสองใบที่พ่อและแม่พาเขาก้าวเท้าไปเหยียบนั้นทรงพลังและมีอิทธิพลต่อตัวเขาอย่างยิ่ง

 
(มีความคิดเห็นอย่างไรก็ช่วยคอมเมนต์ด้วยนะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเมนต์ครับผม

10 ตอบกลับไปที่ “เจาะเวลาหาอดีต ตอนสอง”

  1. เค้าว่ากันว่าคนแก่มักจะพูดถึงอดีต
     
    แก่แล้วล่ะซิเนี่ย……
     
    (ไม่เห็นว่าเนื้อเรื่องมันจะดร็อปลงตรงไหนเลย)

  2. เขียนตอนอารมณ์ไม่ค่อยดี เลยรู้สึกพลังในตัวอักษรมันหายไป
    แต่ก็สงสัยแก่แล้วจริงๆ

  3. เด่ะๆ เหมือนกันเลยหว่ะ แถวบ้าน มีร้านวีดีโอที่ไหน ต้องมีข้าที่นั่นแต่ไม่มีปันยาเช่า เลยนั่งน้ามลายย้อยหน้าม้วนวีดีโอ เผื่อเจ้าของร้านจะให้เอากลับไปดุ ตอนนั้น ติด เจตโตะ แมน พอโต มาหน่อย เปี่ยนแนว เปน สามพลัง  กันบารูก้าแต่ัยังคงไว้ลาย ดู ไอ้มด ดำ อาร์เอกซ์ ต่อ บ้าสัดๆเลย ตอนนั้น เซนต์เซย่า รำลึกความหลังนี่ดีจริงๆ แต่ความรักไหง ยิ่งรำลึก ยิ่งช้ำวะ ไม่เข้าใจ

  4. เรื่องความหลังกับความรักนี่ อย่าเอามาปนกัน เดี๋ยวจะหม่นหมองเอา
    เคยได้ยินว่า
    คนเราจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเมื่อได้เรียนรู้ความรัก และจะยิ่งโตแบบก้าวกระโดดถ้าความรักนั้นมันทำให้เจ็บปวด
    มึงว่าจริงรึเปล่าวะ?

  5. ทำให้ผมจำได้เลยว่า ตอนนั้นผมอยากเป็น "จีบัน" มากๆ เป็นหุ่นยนต์ที่โคตรเท่ห์ เวลาอ่านหนังสือแค่กรีดกระดาษแล้วจีบันก็จะรู้เรื่องราวทั้งหมดได้ ประหยัดเวลาสุดๆ รู้สึกถึงความเป็นยอดมนุษย์
    แต่บางครั้ง "จีบัน" ก็จะพลาดท่าให้กับศัตรู จนผมสงสารน้ำตาแทบไหล…
    แต่ในที่สุด…จีบันก็ผงาดกลับมาชนะทุกครั้งจนได้
    …ความทรงจำอาจจะเลือนลาง แต่ผมรู้สึกว่า ตอนนั้นหัวใจของเด็กมันบริสุทธิ์จริงๆ
     
    "แม้ว่าเมื่อวานผมอาจจะเพิ่งดูเทปวีดีโอเรื่องนั้นกับพี่ชายไปก็ตามที…."
    @_@
     
    ป.ล. การรำลึกถึงอดีต อาจจะทำให้เราสามารถนำความผิดพลาดมาแก้ไขให้เราได้เติบโตขึ้น…
    แต่การมองอดีตที่โง่เขลา คือการเอาอดีตกลับมาทำร้ายตัวเอง
     
     

  6. เย้ เย้ ได้อ่านอีกแล้ว ยังสนุกเหมือนเดิมน้า

  7. อดีตทำให้ใจชุ่มชื้น แต่มันก็กรีดให้บาดแผลบางแห่งยิ่งเจ็บซ้ำ
    เลือกวิธีที่จะคิดถึงมันดีๆจะดีกว่าเนอะ อย่างเช่น ไปเล่นบอลลูนด่านกัน วู้ๆ

  8. หากสามารถเรียนรุ้มัน เราจะแข็งเกร็งขึ้น หากยัง หน้ามืดตามัว คงไม่เหนแสง แห่งความหล่อแน่่นอน

  9. บอลลูนด่าน !!! แสงแห่งความหล่อ !!!
     
    นี่สเปชอะไรกันนี่
     
    ปล. ตอนใหม่ล่ะ???

  10. ตอนใหม่จะมาในอีกสามวัน ถ้าเกินสามวัน
    ก็…
    รอนานกว่านั้น
    (มุกคุ้นๆ)

ส่งความเห็นที่ tean ยกเลิกการตอบ