ว่าด้วยเรื่องLEGO
เรามาทำความรู้จักเลโก้กันแบบพอหอมปากหอมคอดีกว่าเนาะ
เครื่องหมายการค้าของบริษัทLEGO
เลโก้ขนาด2X4สีแดง รุ่นคลาสสิค แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมการ"ล็อค"ที่เลโก้คิดค้นขึ้น
Ole Kirk Christiansen ช่างไม้ชาวเดนมาร์กเริ่มคิดค้นของเล่นจากไม้ในปี1932และเริ่มใช้ชื่อเรียกบริษัทของตัวเองว่า ‘LEGO’ ในอีก2ปีให้หลัง บริษัทเลโก้เริ่มผลิตของเล่นพลาสติกขึ้นในปี1940 และในอีก9ปีต่อมา ของเล่นที่เด็กๆทั่วโลกรู้จักกันดีก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในชื่อว่า ‘Automatic Binding Bricks’ หรือแปลเป็นไทยง่ายๆได้ว่า’ก้อนอิฐที่เชื่อมต่อกันเองได้’ เลโก้ซื้อลิขสิทธิ์การต่อนี้มาจากบริษัทKiddicraftอีกทอดหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมระบบการต่อตัวต่อแบบนี้นั้นบริษัทKiddicraftได้คิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ปี1939หรือก็คือ10ปีก่อนหน้าที่ตัวต่อเลโก้จะถือกำเนิดขึ้นมานั่นเอง
ลักษณะเด่นสุดยอดของนวัตกรรมการล็อคแบบนี้ก็คือตัวต่อแต่ละชิ้นจะต่อกันแน่นด้วยตัวของมันเอง ไม่ต้องใช้กาวหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อใดๆ และที่สำคัญที่สุดก็คือ หลังจากเชื่อมต่อแล้วจะสามารถถอดออกจากกันได้อย่างไม่ยากเกินไป โดยเลโก้ชิ้นแรกผลิตขึ้นมาจากเซลลูโลส อาซิเตต (แบบเดียวกับที่ใช้ผลิตฟิล์ม)
ชื่อ ‘LEGO’ มีที่มาจากภาษาเดนมาร์กว่า leg godt ซึ่งแปลว่า ‘เล่นให้สนุก’ และยังอ่านในภาษาละตินแล้วแปลได้ว่า ‘ฉันประกอบมันเข้าด้วยกัน’ เป็นชื่อที่ความหมายดีมากๆเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงจริงๆ
อย่างไรก็ดี เลโก้ยุคแรกขายแทบไม่ออกเลยเพราะผู้บริโภคส่วนมากไม่เชื่อว่าของเล่นพลาสติกจะดีเหมือนของเล่นที่ทำจากไม้ จุดเปลี่ยนของเลโก้มาถึงในปี1954 เมื่อลูกชายของOle Kirk Christiansen รับเอาคำวิจารณ์ต่างๆที่มีต่อข้อจำกัดของการล็อคของตัวต่อเลโก้มาปรับปรุงและได้ค้นพบศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ในของเล่นชิ้นเล็กๆนี้ เค้าคิดวางรากฐานระบบเลโก้ไว้อย่างเข้มแข็ง ตัวต่อเลโก้ชิ้นที่ผลิตออกมาเมื่อ30ปีที่แล้วยังสามารถต่อเข้ากับชิ้นที่เพิ่งผลิตเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วได้อย่างลงตัว จากการค้นคว้าทดลองเป็นเวลานานหลายปีในที่สุดเลโก้ก็ค้นพบวัสดุที่เหมาะสมที่สุดในการผลิต นั่นก็คือ Acrylonitrile butadiene styrene หรือเรียกสั้นๆว่าABS เป็นพลาสติกที่คงทนและเหนียวมากๆ ถือได้ว่าเป็นสุดยอดการค้นพบของวงการของเล่นเลยทีเดียว
คำขวัญของบริษัทเลโก้ก็คือ "Only the best is good enough." เป็นคำขวัญที่ใช้มาตั้งแต่แรกเริ่มและยังใช้มาจนถึงทุกวันนี้เพื่อให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงการผลิตของเล่นที่มีคุณภาพสูงสุดเพื่อความสุขและความพอใจของลุกค้าทุกคนทั่วโลก มีการเปิดเผยจากบริษัทเลโก้เองว่าทุกๆหนึ่งล้านชิ้นจะมีตัวต่อที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่18ชิ้น และขยะจากเลโก้ก็มีเพียงไม่ถึง1%ที่ไม่ถูกรีไซเคิล มีการคำนวณกันเล่นๆว่าหากนำเลโก้ทุกตัวที่มีในโลกมาแจกให้ทุกๆคนทั่วโลกคนละเท่าๆกัน ทุกคนจะมีเลโก้คนละ62ตัว
ในโลกปัจจุบัน เลโก้ได้เดินทางมาไกลกว่าจุดเดิมที่มันเคยเป็น มันเป็นมากกว่าของเล่นสำหรับเด็ก มันเป็นดั่งวัฒนธรรม เป็นดั่งประสบการณ์ที่เด็กเกือบทุกคนเคยผ่านพบ เป็นชิ้นส่วนที่เติมเต็มจินตนาการให้กับทุกๆคนที่ได้สัมผัสมัน หากมีโอกาสอย่าพลาดที่จะลองสัมผัสกับตัวต่อหลากสีเหล่านี้สักครั้งในชีวิตก็ยังดี เชื่อเถอะ
ตัวอย่าง เลโก้ที่น่าสนใจครับ
กล้องถ่ายรูปจากเลโก้ ถ่ายได้จริงๆนะ
THUMB DRIVE เลโก้ น่าใช้ทีเดียว
The Terminator รายละเอียดสูงมาก ราคาไม่ถูกแน่ๆ
เลโก้ที่แฟนๆออกแบบเอง ดูดีจริงๆ
และนี่เลโก้ชุดในฝันของใครหลายๆคน สูงกว่าครึ่งเมตร มีมอเตอร์เดินได้ รายละเอียดสูงมากๆ ราคาระดับ5หลัก
อันนี้ผมเพิ่งซื้อมาเล่นเมื่อเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง เป็นเลโก้ชุด Exo-Force สนนราคาตัวนี้อยู่ที่740บาท
เลโก้ชุด RACERS ได้ลิขสิทธิ์จากเฟอรารี่เรียบร้อยแล้ว ชุดนี้เนี้ยบและหายากระดับต้นๆของโลก
มองดูดีๆนะครับ นี่เป็นStadiumที่ทำจากเลโก้ทั้งหมด รายละเอียดโคตรเยอะ และไม่มีขาย
นี่ประยุกต์เอาเลโก้มาทำจอยปืนให้ Wii ก็ดูสวยไปอีกแบบ
ใครมีเลโก้เจ๋งๆแบบไหนแนะนำกันมาบ้างก็ดีนะครับ ^^
Advertisements
อยากได้ทรัม กะพวงกุญแจ
ขอ
tean
มีนาคม 4, 2008 at 05:05
อยากได้กล้อง+ ทรัมไดรฟ์
เราก็ชอบซื้อกังหันลมอันละ10บาทมาเล่น
เราก็ชอบระบายสีในสมุดภาพรูปเซลเลอร์มูน
เราก็ชอบเล่นนู่นเล่นนี่ที่คนเค้าจะหาว่าปัญญาอ่อน
พอละ
อายเค้า
ทราย ณ
มีนาคม 4, 2008 at 11:28
โจ้ ไอเลโก้เวนที่ กุเจอราคา มันพันเจดหน่ะ เจอในเวปหลักมันด้วยว่ะ วันนี้เหน แบทโมบิล กะ ยาน ดาร์ท มอลล ด้วย ราคา สามพันเก้า กับ สองพัน สาม ตามลำดับสยองกะเป๋าตัง
ORDIN
มีนาคม 4, 2008 at 11:40
1.วันนี้กูไปซื้อExo-Forceเพิ่มอีกตัวละ เป็น Fire Vulture ราคา740บาท สามารถเอามาประกอบเข้ากับไอ้ Thunder Furyที่กูมีอยู่ได้กลายเป็น Raging Storm ตัวสูงกว่า1ฟุต
2.แบตโมบิล กูเห็นที่พาราก้อน ลดครึ่งราคา เหลือแค่ 1980บาทเท่านั้น ส่วนยานดาร์ทมอลที่กูเห็นราคาเท่าที่มึงเห็นเป๊ะ
3.ทรายไม่ต้องอายเค้าหรอก เด็กก็คือเด็กน่า
4.ถ้าหาซื้อได้ จะซื้อมาฝากนะ ไอ้Thumb Drive เนี่ย อยากได้เหมือนกัน ทั้งทรายกับเอียวเลย นะ
5.หลังจากเดินตามหาทั้งวัน ได้เป็นบุญตาพบกับชุดรถเฟอรารี่คันที่ว่าแล้ว ราคา8800บาท ทั้งสยามประเทศอาจมีกล่องนี้กล่องเดียวก็เป็นได้ ถ้าไม่โชคร้ายเกินไปนัก หวังว่าไอ้โจ้จะเก็บเงินซื้อทันก่อนจะโดนดอยไป
Piyapong
มีนาคม 4, 2008 at 15:29
เจอไอ้ 18 ชิ้น จาก ล้านชิ้นที่ว่าแล้ว
เซ็งมากกกกกกกกกกก
ต่อกันแน่นจนกระชากยังไงก็ไม่ออก ชิท แดม ฟัค!
Piyapong
มีนาคม 4, 2008 at 19:16
ฟัคคค วิจัย ฟัค
ปล. เลโกเล่นงานแล้วไง
tean
มีนาคม 4, 2008 at 19:30
อยากได้ เฟอรารี่
Ammy
มีนาคม 4, 2008 at 19:53
อยากได้ก็ต้องแย่งกันหน่อยนะจ๊ะ
เฟอรารี่คันนี้มีคันเดียวให้เสียวเล่น
Piyapong
มีนาคม 5, 2008 at 19:28
เลโก้ เคยมีตอนเด็กๆ ตอนนี้โดนเอาไปให้เด็กข้างบ้านแล้ว
โคดหนุกเลย กูชอบทำเปนแท่งยาวๆ เอาไปจิ้มตูดน้องเล่น
แล้วกูก็โดนแม่ตี
จบ
(คงได้ความคิดสร้างสรรค์จากเลโก้ไม่มากก็น้อย)
Kengio
มีนาคม 6, 2008 at 15:43
จังไรจริงๆ มิน่าถึงเป็นเพื่อนกับกูได้
Piyapong
มีนาคม 6, 2008 at 19:04
f-430 ราคา ไม่น่าเกิน 2300 ถ้าเกินคงเกินไม่เกิน 200 หล่ะตัวที่แกซื้อมามีคู่แฝดด้วย เหนแล้ววววววว ที่เดอะมอน เช่นเคยยย
ORDIN
มีนาคม 12, 2008 at 07:59
เพราะ EXO-FORCE ทำกูหมดไปเกือบพันห้า กูอดมื้อกินมื้ออยู่เนี่ย
Piyapong
มีนาคม 12, 2008 at 13:20
ตอนนั้นก็ลืมถามเลยว่าไอ้เก่งเอาไปจิ้มตูดน้องคนไหน
Piyapong
กรกฎาคม 5, 2009 at 16:57
เห้ยเชื่อป่าว เราไม่เคยเล่นเลโก้เลย T__T
Le temps
กรกฎาคม 6, 2009 at 02:24
จุ๋มผ่านชีวิตวัยเด็กมาได้ยังไงโดยไม่เคยเล่นเลโก้!?!?!?
Piyapong
กรกฎาคม 6, 2009 at 15:20